สวัสดีค่ะทุกคน ใครมาเที่ยวแถบคันไซ และอยากออกนอกเส้นทางประจำๆอย่างโอซาก้า เกียวโต นารา
เราขอแนะนำอีกที่เที่ยวคือบริเวณฮิเมจิค่ะ ฮิเมจิอยู่ที่จังหวัดเฮียวโกะ จังหวัดเดียวกับเมืองชื่อดังอย่าง”โกเบ” เชื่อว่าถ้าใครเป็นคันไซเลิฟเว่อร์ หรือชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ รู้จักปราสาทฮิเมจิแน่นอน
แล้วรู้ไหมว่า รอบๆฮิเมจิ ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกที่น่าสนใจ
มา!วันนี้เราไปชมกัน…
มาถึง สถานีฮิเมจิ แล้วเราจะเริ่มจากไปเที่ยวที่ไกลสุดก่อนแล้วค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ออกเดินทางจาก สถานีฮิเมจิ (Himeji Station) → ไปขึ้นโชชะซัง โรปเวย์ →
เดินชมวัดโชชาซังเอนเกียวจิ
และกลับลงมา และไปต่อที่ ปราสาทฮิเมจิ แพลนของเราก็ประมาณนี้ค่ะ
จากสถานีฮิเมจิเรานั่งรถบัสประจำทางของชินกิบัส(Shinki Bus) มา
โดยเราซื้อตั๋วรถบัสแบบไปกลับสถานีรถไฟฮิเมจิ – โชชะซัง โรปเวย์
ถ้าใครสนใจ สามารถซื้อได้ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ของชินกิบัส(Shinki Bus) อยู่ด้านหน้าสถานีฮิเมจิเอง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเส้นทางเดินรถได้ที่นี่ค่ะ
ที่เราตัดสินใจไปชมวัดโชชาซังเอนเกียวจิ เพราะว่าเคยเห็นรูปช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เป็นสถานที่ที่สวยมาก
แต่แปลกว่าทำไมคนยังไม่ค่อยไปกันเลยและพอมาถึงเพิ่งมารู้จาก คำบอกเล่าของสต๊าฟที่นี้
ว่าเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง “The Last Samurai” ด้วย กลับไปต้องไปดูหน่อยแล้วแหละ ฮ่าๆ
บรรยากาศด้านบนดีมากกกกกก ถึงรอบนี้ไม่ได้ชมใบไม้เปลี่ยนสี แต่เราก็ได้เห็นธรรมชาติที่ร่มรื่น เย็นสบาย
ก่อนที่เราจะไปต่อกันที่ ปราสาทฮิเมจิ ขอแว็บไปกินมื้อเที่ยงก่อนน้า
คือข้าวหน้าปลาไหลย่างราดซอส ร้านนี้อยู่ที่ด้านหน้าสถานีรถไฟฮิเมจิ
พอกินอิ่มแล้ว เราก็ไปต่อกันได้
เวลามาเที่ยวญี่ปุ่น มีหลายๆกิจกรรมที่ชอบทำกัน หนึ่งในกิจกรรมที่เราก็ทำต่อๆกันมาคือ
การเยี่ยมชมปราสาทในญี่ปุ่น มีหลายๆปราสาทที่ขึ้นชื่อในญี่ปุ่น หนึ่งในนั้นคือ
ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle・姫路城) หรือ “ปราสาทนกกระสาขาว”
ปราสาทชื่อดังในภูมิภาคคันไซ (Kansai) ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติแห่งชาติเมื่อปี ค.ศ. 1951 และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกกับ UNESCO ในปี ค.ศ. 1993
ปราสาทฮิเมจิเป็น1ใน3 ที่เป็นปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น อีก 2 แห่งคือ
ปราสาทมัตสึโมโตะ อยู่ในจังหวัดนากาโนะ และ ปราสาทคุมาโมโตะ
บรรยากาศด้านในจะเป็นยังไงไปชมกันเลยจ้า!
ตัวปราสาทยิ่งใหญ่อลังการมากค่ะให้ความรู้สึกทรงพลัง และอบอุ่นไปพร้อมๆกัน
หลังจากที่เดินผ่านประตูกันเข้ามาหลายชั้น ก็จะเป็นตัวหอคอยหลักของปราสาทแล้วค่ะ เราต้องถอดรองเท้าเอาใส่ถุง แล้วหิ้วติดตัวไปด้วยนะคะ
ตัวหอคอยปราสาทมีทั้งหมด 6 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 1 ชั้น เราก็จะเดินวนขึ้นบันไดไปชมแต่ละชั้น โดยจะมีการจัดเส้นทางเดินไว้เป็นทางเดียวกันค่ะ ขอบอกว่าบันไดทางขึ้นในแต่ละชั้นนั้นค่อนข้างชันเลยนะคะ
ชั้นบนสุดมีศาลเจ้าให้ขอพร
การเดินทางจากสถานีรถไฟไปปราสาทฮิเมจิ
จากสถานีรถไฟทางออกฝั่งเหนือ (North Exit) จะเห็นปราทสาทเด่นสง่าอลังการตั้งแต่สถานีรถไฟ
จากตรงนี้ ตัวปราสาทอยู่ห่างออกไปประมาณ 1กิโลเมตร
- นั่งรถบัส Shinki Bus มาลงที่ป้ายHimejijo otemon maeและเดินต่อประมาณ 5 นาที
- นั่งแท็กซี่มา
- เดินเท้าจากหน้าสถานี ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ไม่ใกล้ไม่ไกล จริงหรอ ฮ่าๆ
เวลาทำการ และค่าเข้าชม
เวลาทำการ:
9:00 – 16:00 น. (ประตูปิด 17:00 น.)
วันหยุด:
29 – 30 ธันวาคม
ค่าเข้าชม:
ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) 1,000 เยน เด็ก (ประถมและมัธยม) 300 เยน
หลังเดินชมรอบปราสาท
ใกล้ถึงเวลากลับแล้ว ถ้าใครสนใจ สามารถซื้อได้ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ของชินกิบัส(Shinki Bus)
อยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟฮิเมจิ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเส้นทางเดินรถได้ที่นี่ค่ะ